ธนาคารไทยเครดิตฯ เปิดตัวมูลนิธิไทยเครดิต ตั้งเป้าปี 66 มีผู้เข้าร่วม 5 หมื่นราย

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานมูลนิธิไทยเครดิต เปิดเผยว่า ”มูลนิธิฯ จะยึดมั่นการดำเนินการให้สอดคล้องกับปรัชญาของธนาคารที่ว่า Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ

การเงิน โดยนำแนวคิด EMpower การเสริมพลัง มาเป็นแกนหลักในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมทักษะด้านการเงิน ผ่านโครงการตังค์โต Know-how เพื่อเสริมสร้างพลังแกร่งสู่กลุ่มเป้าหมายทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และสู่ชุมชนที่มีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเกณฑ์ มูลนิธิฯ จะดำเนินโครงการ “EMpower เพื่อชุมชนที่ยั่งยืน” ในพื้นที่นำร่อง แบบบูรณาการครบทุกมิติ ทั้งการเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมถึงการส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างชุมชนที่ดี แข็งแกร่ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” มูลนิธิฯ มีเป้าหมายหลักในการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ สร้างสรรค์เนื้อหาส่งเสริมความรู้ทางการเงินที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย ทันเหตุการณ์; กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงความรู้ทางการเงินได้โดยง่าย ผ่านการอบรมทั้งในรูปแบบชั้นเรียน และออนไลน์; และพัฒนาเนื้อหาและหลักสูตรความรู้ทางการเงิน เพื่อเสริมแกร่งทางการเงิน พัฒนาอาชีพ และสร้างรายได้ นายรอย ออกุสตินัส กุนารา รองประธานมูลนิธิไทยเครดิต ย้ำถึงการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินจะตอบโจทย์การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น “จากผลสำรวจ 844 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10 ธันวาคม 2022 – 3 มกราคม 2023 ตามมาตรฐานการสำรวจระดับทักษะทางการเงินของคนไทยตามกรอบของ The Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) พบว่าคนไทยมีทักษะทางการเงินอยู่ที่ 79.3% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ที่ 60.5% แต่เมื่อวิเคราะห์ในเชิงลึก กลับพบว่าคนไทยมีพฤติกรรมด้านการออมเงินที่เหมาะสมเพียง 55.7% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ที่ 70.4% ในขณะที่คนไทย 80.7%

ธนาคารไทยเครดิตฯ เปิดตัวมูลนิธิไทยเครดิต ตั้งเป้าปี 66 มีผู้เข้าร่วม 5 หมื่นราย

ประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ที่ 35.3% นอกจากนี้คนไทยอีก 54.6% มักจะมีการกู้ยืมเงินเมื่อเงินไม่พอใช้

ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ที่ 25.8% จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ควรให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมความรู้ ข่าวการเงิน ทางการเงินให้แก่ประชาชน โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการออม รู้จักวิธีการออมเงินที่เหมาะสม รู้จักวิธีการบริหารจัดการรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย จัดสรรเงินก่อนใช้ ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่ก่อหนี้สินจนเกินตัว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ประธานมูลนิธิ กล่าวเสริมว่า ในปีแรกของการดำเนินการ มูลนิธิฯ มีแผนจะพัฒนาหลักสูตรเดิมของผู้ประกอบการรายย่อย ให้เท่าทันการณ์ปัจจุบัน และแบ่งเป็นหลายระยะ จากพื้นฐานสู่ขั้นแอดวานซ์ เพื่อเป็นการต่อยอด และรู้เชิงลึกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้สร้างสรรค์หลักสูตรใหม่ๆ ด้านการเงิน เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายและอาชีพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถเรียนรู้เรื่องการบริหารการเงินส่วนบุคคล รวมถึงเตรียมความพร้อมสู่วัยเกษียณ โดยมีเป้าหมายให้ผู้เข้าอบรมทั้งผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้า ตลอดจนบุคคลทั่วไป รวมถึงเยาวชน และผู้ด้อยโอกาส ให้มีรายได้สูงขึ้น มีหนี้สินลดลง และมีการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มูลนิธิฯ มีเป้าหมายสำคัญในการขึ้นทะเบียนเป็น องค์กรสาธารณกุศล ภายใน 3 ปีข้างหน้าอีกด้วยตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ธนาคารฯ ได้ส่งมอบความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ประชาชน เยาวชน ผ่านโครงการตังค์โต Know-how รวมทั้งสิ้นกว่า 118,555 ราย นับตั้งแต่ปี 2566 จะดำเนินโครงการภายใต้มูลนิธิไทยเครดิต เพื่อขยายและครอบคลุมในทุกมิติ และกลุ่มเป้าหมาย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในสังคม

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ผู้ค้าและนักลงทุน เฮ! ดัชนีราคาทอง สดใสรับปีใหม่