น้ำลดโคนผุด vs Bank run 4.0

ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคิดว่าเรื่องธนาคารหลายที่ในสหรัฐอเมริกา ล้มในช่วงปลายวัฏจักรดอกขาขึ้นรอบนี้ สะท้อนว่านโยบายการคลังสหรัฐอเมริกาตึงตัวร้ายแรง

ข่าวเศรษฐกิจ เริ่มส่งผลใกล้กันต่อเสถียรภาพระบบการคลังของสหรัฐอเมริกาเข้าแล้ว ลักษณะที่คล้ายน้ำลด (สภาพคล่องเหือดลง สภาวะการคลังตึงตัวขึ้นเริ่มมองเห็นโคนผุด (ปัญหาสะสมในระบบการคลังเริ่มโผล่) อาการน้ำลดโคนผุดนี้ มองเห็นได้จากวิธีการการจัดการทรัพย์สินรวมทั้งหนี้ของบางแบงค์ในสหรัฐอเมริกาที่มิได้คิดถึงการเสี่ยงรอบด้าน ท่ามกลางหลักการการคลังตึงตัวแรงแล้วก็เร็วเป็นประวัติการณ์ จนกระทั่งเป็นผลขาดทุนจากการเสี่ยงด้านอัตราค่าดอกเบี้ยและก็สภาพคล่อง นอกจากนั้น อีกสิ่งสำคัญเป็น เทคโนโลยีดิจิทัล” ที่เป็นตัวการรีบให้ตระหนกตกใจแห่เบิกเงินของผู้ฝากเงิน (bank run) เกิดขึ้นทันทีอย่างที่ไม่มีผู้ใดคาดหมาย ข้างหลังได้รับทราบผลประกอบการของแบงค์ที่ออกมามองไม่ค่อยดีนัก ทำให้ปัญหาธนาคารล้มเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นมากยิ่งกว่าเดิมเทียบกับอดีตกาล ปัญหาเรื่องการบริหารการเสี่ยงบกพร่องในสภาวะดอกขาขึ้นผสมโรงกับ Bank run สมัย 4.0 ทำให้ระบบแบงค์บางทีอาจพบเจอความเปราะบางได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นมากมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ที่ 1) ผลประกอบการธนาคารเริ่มส่อแววลางปัญหา ได้แก่ บริหารการเสี่ยงด้านอัตราค่าดอกเบี้ยของแบงค์บกพร่อง โดยบริหารทรัพย์สินที่ให้อัตราผลตอบแทนคงเดิมในรูปทรงสูง ไม่สมดุลกับรูปทรงหนี้ที่จ่ายดอกลอยตัวตามอัตราค่าดอกเบี้ยขาขึ้น กำเนิดการเสี่ยงสภาพคล่องตามมาได้ 2) การติดต่อสื่อสารข่าวสารลบของผลประกอบการผ่านสื่อโซเชียลแพร่กระจายเป็นวงกว้างอย่างเร็ว 3) ผู้ฝากเงินในสมัยดิจิทัลขาดความมั่นใจโยกเงินออมออกมาจากบัญชีในอัตรารีบอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน เพราะว่าสามารถทำเป็นตลอดระยะเวลา ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน 4) ธนาคารที่มีปัญหาแล้วก็มีรูปทรงเงินออมที่มิได้รับการรับประกัน (unsecured deposit) สูง 

น้ำลดโคนผุด vs Bank run 4.0

ยิ่งได้โอกาสกำเนิด digital bank run มากมาย กลไกการยืนยันเงินออมก็เลยเป็นวัสดุภาครัฐที่สำคัญมากในเหตุการณ์แบบนี้เพื่อคุ้มครองปกป้อง bank run ในกรณีของสหรัฐอเมริกา 

กลไกรับรองเงินออมของ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) ข่าวเศรษฐกิจ ช่วยกระแส bank run 4.0 ได้ระดับหนึ่ง ข้างหลังดำเนินงานเป็นกรณีพิเศษอุ้มผู้ฝากเงินทุกรายของ Silicon Valley Bank รวมทั้ง Signature Bank ที่ล้มไป ไม่ว่าจะมีเงินฝากต่ำลงมากยิ่งกว่ามาตรฐาน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อบัญชีไหม เพื่อไม่ให้ปัญหาขยายขอบเขตจนกระทั่งแปลงเป็นการเสี่ยงเชิงระบบ (systematic risk) FDIC ออกรายงานทวนสถานะการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า การแห่เบิกเงินฝากในอัตรารีบตัวอย่างเช่นที่เกิดขึ้น สะท้อนว่ากฏเกณฑ์การควบคุมดูแล ตรวจตรา และก็ประเมินการจัดการการเสี่ยงด้านสภาพคล่องของระบบแบงค์จะต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันช่วง ยิ่งไปกว่านี้ FDIC ควรต้องปรับปรุงความครอบคลุมของการรับรองเงินออม พร้อมออกแผนการรวมทั้งวัสดุเอื้อให้การดำเนินงานมีคุณภาพมากเพิ่มขึ้น โดยเสนอวิถีทางแก้ไขระบบ อาทิเช่น Targeted coverage ขยายความครอบคลุมการรับรองเงินออมให้ไม่เหมือนกันได้ บัญชีธนาคารของธุรกิจเพื่อจ่ายจ่าย (non-interest checking account) ควรจะได้รับการป้องกันวงเงินสูงขึ้นยิ่งกว่า เหตุเคร่งเคลียดในระบบแบงค์ของสหรัฐอเมริกา คราวนี้สะท้อนว่า ไม่ว่าแบงค์จะใหญ่หรือเล็ก ถ้าหากปลดปล่อยให้ล้มโดยผู้ฝากเงินมิได้รับการเกื้อกูลพอเพียงทันเวลา อาจจะก่อให้กำเนิดปัญหาเสถียรภาพเชิงระบบ เพราะเหตุว่ามีความเชื่อโยงกันในระบบการคลังสลับซับซ้อน ภาครัฐก็เลยไม่บางทีอาจปลดปล่อยธนาคารล้มง่ายได้แก่ในอดีตกาลแล้ว การอุ้มธนาคารขจัดปัญหา bank run ดูเหมือนจะกำลังเปลี่ยนแปลงโฉมจาก too big to fail เป็น too much systemic risk to fail ตัวอย่างเช่นที่เกิดขึ้นจ้ะ

แนะนำข่าวเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : แจกเงินสูงสุด 2,000 บาท เข้าบัตรผลประโยชน์ที่เมือง นาน 6 เดือนเลยหรอ